วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ข้อสอบ พันธะเคมี

 ข้อสอบ


1.สารโคเวเลนต์ชนิดหนึ่งมีสูตร AH3 และรูปร่างโมเลกุลเป็นสามเหลี่ยมแบนราบ อะตอม A ในสารนี้ไม่มีอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว ข้อใดที่น่าจะเป็นสมบัติของสาร AH3 

  ก.โมเลกุลมีขั้ว ละลายน้ำ จุดเดือดต่ำ 

  ข.เกิดพันธะไฮโดรเจน จุดเดือดสูง และละลายน้ำได้ 

  ค.โมเลกุลไม่มีขั้ว และมีแรงแวนเดอร์วาลส์ (ลอนดอน) เป็นแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล
 

  ง.โมเลกุลไม่มีขั้ว แต่เกิดพันธะไฮโดรเจนได้ 




2.ในการเผาไหม้โพรทานอล ( C3H7OH ) 1 โมล ได้ผลิตภัณฑ์เป็น แก๊ส CO2  และ H2O (ไอน้ำ) จะดูดหรือคายพลังงาน กี่กิโลจูลต่อโมล 

ก. ดูดพลังงาน 1.52 kJ     
                             
ข.  คายพลังงาน 1,525 kJ

ค.  ดูดพลังงาน 1,883 kJ   
                           
ง.  คายพลังงาน 1,883 kJ


3.X เป็นสารประกอบของธาตุ Ca และ F มีจุดหลอมเหลวสูง ไม่นำไฟฟ้าที่อุณหภูมิห้อง และละลายน้ำได้น้อยมาก ข้อสรุปใดต่อไปนี้ ไม่ สอดคล้องกับข้อมูลข้างต้น

ก. พันธะในสาร X เป็นพันธะไอออนิก
           
ข. เมื่อ X ละลายน้ำ จะดูดความร้อน ทำให้ละลายได้น้อย

ค. X มีสูตร CaF2 ผลึกมีความแข็งแรงมากจึงละลายได้ยาก   
  
ง. สาร X เมื่อหลอมเหลวจะนำไฟฟ้า


4.สาร X , Y , Z มีพลังงานพันธะเป็น 120 , 200 , 90 kJ/mol ตามลำดับ จงเรียงความยาวพันธะจากน้อยไปมาก

ก. X , Y , Z  
          
ข. Z , Y , X     
           
ค. Y , X , Z 
             
ง. Z , X , Y

 
5.ธาตุ Z มีพลังงานไอออไนเซชันตั้งแต่ลำดับที่หนึ่งถึงลำดับที่ 8 เป็นดังนี้ 1.320, 3.395, 5.307, 7.476, 10.996, 13.333, 71.343, 84.086 ธาตุ Z มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่าใด 

ก. 1    
            
ข. 4   
             
ค. 6     
           
ง. 7 


6.เหตุใดสารโคเวเลนต์ จึงมีจุดเดือด จุดหลอมเหลวต่ำ

ก. สารโคเวเลนต์มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลน้อย   
    
ข. สารโคเวเลนต์มักสลายตัวได้ง่าย

ค. สารโคเวเลนต์ไม่มีประจุไฟฟ้า    
                               
ง. สารโคเวเลนต์มักมีโมเลกุลขนาดเล็ก


7.สารละลายที่เกิดจากธาตุหมู่ 1 กับน้ำ มีสมบัติอย่างไร

ก. เป็นกลาง    

ข. เป็นได้ทั้งกรดและเบส  
    
ค. เป็นกรด      

ง. เป็นเบส


8.สาร X เป็นโมเลกุลไม่มีขั้ว สาร Y เป็นโมเลกุลมีขั้ว ส่วนสาร Z เป็นพันธะไม่มีขั้ว ถ้าขนาดของโมเลกุลของ X>Y>Z แล้วสาร X Y และ Z ควรเป็นดังข้อใด 

ก. CH2 , NH3 , C6H6      

ข. BeCl2 , CH2Cl2 , S8      

ค. Br2 , H2O , H2      

ง. SiH4 , PCl3 , PCl5 


9.กำหนดค่า EN ของธาตุดังนี้ A = 3.0 , B = 2.8 X= 2.7 , Y = 3.7 จงเรียงลำดับความแรงขั้วจากมากไปน้อย

ก. A-B , B-X , X-Y    

 ข. A-Y , B-X , A-X    

 ค. Y-B , A-Y , A-X    

 ง. A-X , B-Y , A-Y


10.ข้อใดจัดว่าเป็นแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล

ก. พันธะไอออนิก

ข. พันธะโควาเลนต์

ค. พันธะไฮโดรเจน

ง. พันธะโลหะ


11.การที่อะตอมพยายามปรับตัวเองให้อยู่ในสภาพเสถียรโดยทำให้อิเล็กตรอนวงนอกสุดเท่ากับ 8 เราเรียกกฎนี้ว่าอะไร

ก. กฎออกซิเดชั่น

ข. กฎออกเตต

ค. กฎโคเวเลนต์

ง. กฎไอออนิก


12.พันธะเคมี หมายถึง อะไร

ก. แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอม

ข. พลังงานที่ทำให้อะตอมสลายตัว

ค. การอยู่รวมกันของอะตอม

ง. การอยู่รวมกันของโมเลกุล


13.การเกิดสารประกอบไอออนิกส่วนใหญ่จะเกิดจาก ธาตุประเภทใดมารวมตัวกัน

ก. เกิดได้ทั้งหมด

ข. โลหะ กับ โลหะ

ค. อโลหะ กับ อโลหะ

ง. โลหะ กับ อโลหะ


อยกว่า 278 kJ


14.สาร X เป็นโมเลกุลไม่มีขั้ว สาร Y เป็นโมเลกุลมีขั้ว ส่วนสาร Z เป็นพันธะไม่มีขั้ว ถ้าขนาดของโมเลกุลของ X>Y>Z แล้วสาร X Y และ Z ควรเป็นดังข้อใด 

ก. CH2 , NH3 , C6H6     

ข. BeCl2 , CH2Cl2 , S8      

ค. Br2 , H2O , H2    

ง. SiH4 , PCl3 , PCl5 


15.ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับพันธะเคมี

ก. รับอิเล็กตรอนจากอะตอมอื่น

ข. ใช้อิเล็กตรอนร่วมกัน

ค. แย่งอิเล็กตรอนกับอะตอมอื่น

ง. ให้อิเล็กตรอนกับอะตอมอื่น

ข้อสอบ อะตอมและตารางธาตุ

 แบบทดสอบ อะตอมและสมบัติธาตุ

 1. ทิศทางของไอออน He+ และ Ne+ เคลื่อนที่ไปด้วยกัน ผ่านสนามไฟฟ้า

 แนวทางการเคลื่อนที่ของไอออนทั้งสองควรมีลักษณะตามข้อใด (PAT-2 ก.ค.52)

ก. เคลื่อนที่เป็นสองแนวแยกกันไปในทิศตรงข้าม
ข. เคลื่อนที่เป็นสองแนวในทิศทางเดียวกัน โดย He+ มีรัศมีการเลี้ยวเบนสั้นกว่า
ค. เคลื่อนที่เป็นสองแนวในทิศทางเดียวกัน โดย Ne+ มีรัศมีการเลี้ยวเบนสั้นกว่า
ง.  เคลื่อนที่เป็นแนวทางเดียวกัน

เฉลย ข. เพราะ Ne+ และ He+ จะเคลื่อนไปด้าน Cathode เช่นกัน 
แต่ Ne+ จะเลี้ยวเบนได้ระยะทางที่ยาวกว่า (ไกลกว่า) 
เนื่องจากมีมวลหนักกว่า จึงมีแรงเฉื่อยในการเคลื่อนที่มากกว่า

2. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับสเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน (PAT-2 มี.ค.58)
ก. แบบจำลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด
ข. ระดับชั้นพลังงานของอิเล็กตรอน
ค. แบบจำลองอะตอมกลุ่มหมอก
ง. รัศมีวงโคจนของอิเล็กตรอน

เฉลย ก. เพราะ แบบจำลองของรัทเทอร์ฟอร์ด มีระดับพลังงานชั้นเดียว
 จึงอธิบายเกี่ยวกับสเปกตรัมไม่ได้

3. พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้
    I. อะตอมประกอบด้วยนิวเคลียสและอิเล็กตรอน
    II. อิเล็กตรอนโคจนรอบนิวเคลียส โดยมีวงโคจรที่แน่นอน
    III. การดูดหรือคายพลังงานของอิเล็กตรอน จะทำให้อิเล็กตรอนเปลี่ยนระดับพลังงาน
    IV. โอกาสที่จะพบอิเล็กตรอนขึ้นอยู่กับระยะห่างจากนิวเคลียส
ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับแบบจำลองอะตอมกลุ่มหมอก (PAT-2 พ.ย.58)
ก. I , II
ข. II , IV
ค. II , III
ง. I , II และ III

เฉลย ข. เพราะแบบจำลองแบบกลุ่มหมอก อธิบายว่า 
อิเล็กตรอนโคจรรอบนิวเคลียส ไม่มีวงโคจรที่แน่นอน แต่จะพบอิเล็กตรอนอยู่ในออร์บิทัล
 และโอกาสพบอิเล็กตรอนบริเวณหมอกหนาทึบมากกว่าบริเวณที่มีหมอกจาง
ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับระยะห่างจากนิวเคลียส

4. ข้อใด ถูกต้อง เกี่ยวกับแบบจำลองอะตอมกลุ่มหมอก (PAT-2 พ.ย.58)
ก. อิเล็กตรอนอยู่ไม่ประจำที่
ข. อิเล็กตรอนกระจายอย่างไม่สม่ำเสมอในอะตอม
ค. ระดับชั้นพลังงานของอิเล็กตรอนมีค่าไม่แน่นอน
ง. อิเล็กตรอนเคลื่อนที่รอบนิวเคลียสโดยมีรัศมีวงโคจรแน่นอน
จ. ความน่าจะเป็นที่จะพบอิเล็กตรอนมีค่าไม่เท่ากันในแต่ละบริเวณ

เฉลย จ. เพราะบริเวณที่มีหมอกหนาทึบ มีโอกาสพบอิเล็กตรอนมากกว่า
 บริเวณที่หมอกจาง

บทตารางธาตุ สมบัติของสารประกอบของธาตุตามคาบ

5. ธาตุ X เมื่อเกิดสารประกอบไอออนิกกับธาตุออกซิเจนพบว่าได้สารที่มีสูตรเคมีเป็น
 XO2 โดยออกซิเจนในสารประกอบมีการจัดอิเล็กตรอนเป็น 1s2 2s2 2p5 
จากข้อมูลข้างต้นข้อใดถูกต้อง 
(PAT-2มี.ค.54)
ก. X เป็นอโลหะ
ข. X เป็นธาตุในคาบ 2
ค. X เป็นธาตุที่อยู่หมู่เดียวกับธาตุที่มีเลขอะตอม 88
ง. X เป็นธาตุที่มีค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตีมากที่สุดในตารางธาตุ

เฉลย ค. เพราะจากการจัดเรียงอิเล็กตรอนของออกซิเจนเป็น 1s2 2s2 sp5 
แสดงว่าออกซิเจนรับอิเล็กตรอนมาเพียง 1 ตัว เพื่อเกิดสารประกอบ
ไอออนิกออกซิเจนจึงเป็นไอออนลบหนึ่ง (O-) เมื่อคิดเลขออกซิเดชันของ
สารประกอบเป็นดังนี้ X (+2) O2 (-1)

6. พิจารณาสูตรเคมี และสมบัติของสารประกอบระหว่างไนโตรเจนกับธาตุสมมติ A , D , E  และ G
ในตารางต่อไปนี้ โดยที่ธาตุสมมติเหล่านี้อยู่ในคาบเดียวกัน

สารประกอบไนโตรเจนของ
สูตรเคมี
สมบัติ
A
A3N
 จุดหลอมเหลวและจุดเดือดต่ำมาก
B
D3N2
 จุดหลอมเหลวและจุดเดือดสูงมาก
C
E3N4
 จุดหลอมเหลวสูงมากถึง 1900 องศาเซลเซียส
D
G2N2
 โครงสร้างเป็นวง แรงยึดระหว่างโมเลกุลเป็นแรงระหว่างขั้ว

จากข้อมูลข้างต้นให้เรียงลำดับขนาดอะตอมของ A , D , E และ G (PAT-2 เม.ย.57)
ก. A > D > E > G
ข. D> E > G > A
ค. E > G > A > D
ง. G > A > D > E

เฉลย ข. เพราะ ธาตุ A , B , E , G น่าจะเป็นธาตุคาบ 3 Na Mg(D) Al Si(E) P S(G) Cl(A)

7. ธาตุสมมติ A , D และ E เป็นธาตุที่มีเลขอะตอมเรียงกันและอยู่ในคาบ 3 พบว่าทั้งออกไซด์ของ E และไฮไดรด์ของ A , D และ E มีสถานะเป็นแก๊สที่อุณหภูมิห้องจากข้อมูลนี้ ข้อใดถูกต้อง (PAT-2 พ.ย.57)
ก. ค่า IE1 ของ D > E > A
ข. สูตรของสารประกอบออกไซด์ของ
ค. ธาตุ A , D และ E อยู่ใน 5A , 6A และ 7A ตามลำดับ
ง. เลขอะตอมของ A , D และ E คือ 13 , 14 และ 15 ตามลำดับ 

เฉลย ก. เพราะ ธาตุที่ 3 ข้อมูลธาตุ E ของ ข้อ ข , ค , ง ขัดแย้ง
               ค่า IE หมู่ 5 สูงกว่าหมู่ 6



8. สารประกอบฟลูออไรด์ของธาตุในคาบที่สามทั้ง 5 ชนิด คือ A , D , E , G และ J มีสูตรดังนี้
ธาตุ
สูตรของสารประกอบฟลูออไรด์
A
AF2 , AF4 , AF6
D
DF2
E
EF4
G
GF3 , GF5
J
JF , JF3 , JF5

จากข้อมูลข้างต้น ข้อใด ผิด (PAT-2 มี.ค.60)
ก. A เป็นธาตุหมู่ 3
ข. D เป็นโลหะ
ค. ออกไซด์ของ E มีสูตรเป็น EO2
ง. D และ G เกิดสารประกอบที่มีสูตรเป็น D3G2
จ. สารประกอบออกไซด์หนึ่งของ J คือ J2O7

เฉลย ก. เพราะธาตุในคาบ 3 Na Mg (D) Al Si(E) P(G) S(S) Cl(J) 
Ar ข้อ ก. ผิดเพราะธาตุ Ar เกิดสารประกอบกับฟลูออรีนไม่ได้

9. ธาตุสมมติ A , B , C และ D อยู่ในคาบ 2 สารประกอบของธาตุเหล่านี้มีสมบัติดังข้อมูลต่อไปนี้
    I.    สารประกอบไฮไดรด์ของ A มีจุดหลอมเหลวสูงกว่าสารประกอบไฮไดรด์ของธาตุคาบ 3 ในหมู่                 เดียวกัน และสารประกอบคลอไรด์ของธาตุ A มีสูตร ACl3
    II.   สารประกอบออกไซด์ของ B มีสูตรเป็น B2O และสารประกอบออกไซด์ของธาตุตัวอื่นๆในหมู่                   เดียวกับ B มีสมบัติเป็นเบส
    III.  สารประกอบคลอไรด์ของธาตุ C มีสถานะเป็นแก๊สที่อุณหภูมิห้อง 25 องศา และสารประกอบนี้มี               สมบัติเป็นตัวรับอิเล็กตรอนที่ดี
    IV.  สารประกอบไฮไดรด์ของ D มีสมบัติเป็นกรดอ่อน

จากข้อมูลข้างต้น ข้อใด ถูกต้อง (PAT-2 ธ.ค.56)
ก. เลขอะตอมของ D > C > A > B
ข. ขนาดอะตอมของ B > C > A > D
ค. พลังงานไอออไนเซซันของ D > C > A > B
ง. ความสามารถในการรับอิเล็กตรอนของ B > C > A > D

เฉลย ข. เพราะ ธาตุคาบ 2   
Li --> B(Li2O)  Be  B --> C(BCl3)  C  N --> A(NH3)  O  F -->D(HF) Ne
A(NH3) มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลเป็น H-b ส่วน PH3 
มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลเป็นแรงระหว่างขั้ว
C(BCl3) เป็นสารประกอบที่มีเวเลนต์อิเล็กตรอนไม่ครบ 8 จึงสามารถรับอิเล็กตรอนได้ดี 

10. พิจาณาโครงสร้างของสารประกอบออกไซด์ของธาตุสมมติ A , B , C และ D ซึ่งเป็นธาตุในคาบที่ 3 ในตารางต่อไปนี้


ออกไซด์ของธาตุ
รายละเอียดของโครงสร้าง
A
A แต่ละตัวมี ล้อมรอบ 4 ตัว และ แต่ละตัวมี A ล้อมรอบ 2 ตัว
B
แต่ละตัวมี ล้อมรอบ 6 ตัว และ O แต่ละตัวมี ล้อมรอบ 4 ตัว
C
C แต่ละตัวมี ล้อมรอบ 4 ตัว และ O แต่ละตัวมี ล้อมรอบ 8 ตัว
D
D แต่ละตัวมี ล้อมรอบ 6 ตัว และ O แต่ละตัวมี ล้อมรอบ 6 ตัว


หมายเหตุ มีธาตุ 3 ตัวเป็นโลหะ และธาตุ 1 ตัวเป็นกึ่งโลหะ
จากข้อมูลในตาราง ข้อใดถูกต้อง (PAT-2 ต.ค.55)
ก. ขนาดของ A > B > C > D
ข. ความสามารถในการรับอิเล็กตรอนของ A > B > C > D
ค. ค่าพลังงานไอออไนเซชันอันดับ 1 ของ D > C > B > A
ง. เลขออกซิเดชันของ A , B , C และ D ในสารประกอบออกไซด์เหล่านี้เป็น +2 , +3 , +4 และ +1 ตามลำดับ

เฉลย ข. เพราะ ธาตุ A B C D เป็นธาตุคาบที่ 3 มีโลหะ 3 ตัว
 กึ่งโลหะ 1 ตัว แสดงว่า A , B , C , D
จะต้องเป็นธาตุหมู่ 1-4 เช่นกัน
A2O4 ----> AO2 (SiO2)
B4O6 ----> B2O3 (Al2O3)
C8O4 ----> C2O (Na2O)
D6O6 ----> DO (MgO)


สัญลักษณ์นิวเคลียร์ เลขมวล เลขอะตอม และไอโซโทป

11. ธาตุ A อยู่ในคาบ 4 หมู่ 1A ธาตุ B อยู่ในคาบ 3 หมู่ 6A ธาตุ A และ B เกิดสารประกอบ AxBy จากข้อมูลข้างต้น ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (PAT-2 มี.ค. 52)
ก. ธาตุ A มีเลขอะตอมเท่ากับ 20 ธาตุ B มีเลขอะตอมเท่ากับ 16
ข. จำนวนอิเล็กตรอนของไอออนของ A มีค่าเท่ากับ 18
ค. จำนวนนิวตรอนของธาตุ A น้อยกว่า B
ง. ธาตุ B เกิดสารประกอบโคเวเลนต์กับธาตุ H ได้สารที่มีสถานะเป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้อง

เฉลย ข. เพราะ A อยู่คาบ 4 หมู่ 1 (การจัดเรียงอิเล็กตรอนเป็น 2 8 8 1)
จำนวนอิเล็กตรอนของ A+ เป็น 2 8 8


คลื่น สเปกครัม และแบบจำลองอะตอมของโบร์

12. ปรากฏการณ์ใดต่อไปนี้ที่ไม่ได้นำทฤษฏีควอนตัมของพลังงาน E = hV มาใช้ในการอธิบาย 
(PAT-2 ธ.ค. 56)
ก. ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก
ข. สเปกตรัมเส้นที่ได้จากอะตอมไฮโดรเจน
ค. การยิงอนุภาคแอลฟาผ่านแผ่นทอง
ง. การเปล่งแสงของวัตถุเมื่อได้รับความร้อน

เฉลย ค. เพราะการยิงอนุภาคแอลฟาผ่านแผ่นทองคำ เป็นการยิงอนุภาคบวกไ
ชนอนุภาคภายในอะตอม และศึกษาการเบี่ยงเบนของรังสีแอลฟา

แบบจำลองอะตอมแบบกลุ่มหมอก และ การจัดอิเล็กตรอน

13. ข้อความต่อไปนี้ ข้อใด ไม่ถูกต้อง (PAT-2 ก.ค. 53)
ก. ออร์บิทัลชนิด d จะเริ่มมีในระดับพลังงาน n = 3
ข. ระดับพลังงานย่อย f ในระดับพลังงาน n = 3 มีจำนวน 7 ออร์บิทัล
ค. ในระดับพลังงาน n = 3 มีจำนวนออร์บิทัลทั้งหมด 9 ออร์บิทัล
ง. ในระดับพลังงาน n = 4 มีจำนวนพลังงานย่อย 4 ระดับ

เฉลย ข. ผิดเพราะในระดับพลังงานที่ 3 ไม่มี f orbital

14. ธาตุในข้อใดมีสมบัติสอดคล้องกับข้อมูลต่อไปนี้ (PAT-2 มี.ค. 58)
       1. อะตอมของธาตุนี้ในสถานะพื้นมีจำนวนอิเล็กตรอนเดี่ยว 1 ตัว
       2. สูญเสียอิเล็กตรอนได้ง่ายที่สุดในคาบ
       3. มีเลขอะตอมมากว่า 31 แต่น้อยกว่า 46
ก.  เลขอะตอม 35A  
ข.  เลขอะตอม 37D
ค.  เลขอะตอม 39E
ง.  เลขอะตอม 41G

เฉลย ข. เพราะ เลขอะตอม 37D [Kr] 5s1 มีอิเล็กตรอนเดี่ยว 1 ตัว จ่ายอิเล็กตรอนออกไป 
ธาตุจะเสถียร

15. พิจารณา electron configuration ของธาตุสมบัติต่อไปนี้
      A : [Ar] 4s2  3d10  4p3
      B : [Ar] 4s2  3d10  4p6
      C : [Kr] 5s2  4d10  5p3
      D : [Kr] 5s2  4d10  5p6
ธาตุใดอยู่ในหมู่เดียวกัน (PAT-2 ต.ค. 54)
ก. A , B
ข. B , C
ค. B , D
ง. A , C

เฉลย ง. เพราะ A และ C มีเวเลนต์อิเล็กตรอนจัดเรียงเป็น 4p3 และ 5p3 
ามลำดับทั้งคู่อยู่หมู่ 5

16.  ข้อใดถูกเกี่ยวกับพลังงานไอออไนเซชัน ลำดับที่ 1 ของตารางธาตุแต่ละคู่ (PAT-2 ก.ค. 53)
ก. 1H มีค่ามากกว่า 2He
ข. 11Na มีค่ามากกว่า 12Mg
ค. 18Ar มีค่ามากกว่า 19K 
ง. 18Ar มีค่ามากว่า 10Ne

เฉลย ค. เพราะเวเลนต์อิเล็กตรอนของ Ar เสถียรมากกว่า K

บทสมบัติของธาตุในหมู่ต่างๆ

17. เมื่อพิจารณาจากการจัดเรียงอิเล็กตรอน ไอออนที่น่าจะมีความเสถียรมากที่สุด คือ ชนิดใด
(PAT-2 ก.ค. 52)
ก. H+
ข. He+
ค. He2+
ง. Li+

เฉลย ง. เพราะ Li+ จัดเรียงอิเล็กตรอนเป็น 2 เสถียรเหมือนแก๊สเฉื่อย (He)

18. พิจารณาสมบัติของธาตุสมบัติต่อไปนี้
ธาตุ
สมบัติ
A
  มีขนาดใหญ่ที่สุดในคาบ 3 และทำปฏิกิริยากับน้ำ
D
  รับอิเล็กตรอนยากที่สุดในหมู่ VA หรือหมู่ 15
E
  มีจำนวนอิเล็กตรอนน้อยที่สุดในตารางธาตุ
G
  มีค่าอิเล็กโทรเนกาวิตีมากที่สุดในตารางธาตุ
J
  อยู่หมู่ IVA หรือหมู่ 14 และเป็นองค์ประกอบสำคัญในการควอตซ์

สารประกอบระหว่างธาตุคู่ใดต่อไปนี้ที่เกิดปฏิกิริยากับน้ำแล้วให้เกิดแก๊สไฮโดรเจน (PAT-2 ต.ค. 59)
ก. A และ E 
ข. D และ G
ค. E และ G 
ง. G และ J

เฉลย ก. เพราะ A คือ Na ,  D คือ N , E คือ H , G คือ F , J คือ Si
                                  NaH + H2O ----> NaOH + H2


19. พิจารณาสัญลักษณ์อะตอมของธาตุสมมติต่อไปนี้ 16A , 17B , 19C , 20D , 35E ข้อใดผิด
เกี่ยวกับสมมติของธาตุเหล่านี้ (PAT-2 ธ.ค. 56)
ก. ธาตุที่ว่องไวในการเกิดปฏิกิริยากับน้ำมากที่สุดคือ C
ข. B เป็นธาตุที่รับอิเล็กตรอนได้ง่ายที่สุด
ค. ขนาดของ C > D > E > A > B
ง. สารประกอบระหว่าง A และ B คือ AB3 , AB4 , AB6

เฉลย ง. เพราะ A คือ S ส่วน B คือ Cl ไม่พบสาร SCl3 เนื่องจาก S 
มีอิเล็กตรอนเดี่ยวสารประกอบดังกล่าวไม่เสถียร

บทธาตุ Transition

20. ข้อใดเป็นการจัดเรียงอิเล็กตรอนของ 24Cr3+  (PAT-2 ต.ค.53)
ก. 1s2  2s2  2p6  3s2  3p6  4s1  3d2
ข. 1s2  2s2  2p6  3s2  3p6  3d3
ค. 1s2  2s2  2p6  3s2  3p6  4s2  3d1
ง.  1s2  2s2  2p6  3s2  3p3  4s1  3d5

เฉลย ข. เพราะ 24Cr = [Ar] 4s1  3d5
                         24Cr3+ = [Ar] 3d3

21. ข้อใดเป็นการจัดอิเล็กตรอนที่สภาวะพื้นของ Fe(II) (Z = 26) (PAT-2 มี.ค. 54)
ก. 1s2  2s2  2p6  3s2  3p6  4s2  3d4
ข. 1s2  2s2  2p6  3s2  3p6  4s0  3d6
ค. 1s2  2s2  2p6  3s2  3p6  4s1  3d5
ง. 1s2  2s2  2p6  3s2  3p5  4s2  3d5

เฉลย ข. เพราะ  26Fe = [Ar]  4s2  3d6
                          26Fe2+  = [Ar]  3d6

22. พิจารณาการจัดเรียงอิเล็กตรอนของธาตุต่อไปนี้ 
       A :  [Ar]  4s2  3d7
       B :  [Ne]  3s2  3p4  4s1
       C :  [Ne]  3s1
       D :  [Ne] 3s2  3p3
จากข้อมูลข้างต้น ข้อใด ถูกต้อง (PAT-2 มี.ค.56)
ก. ธาตุ A สามารถเกิดสารประกอบกับ B ได้สารประกอบไอออนิกและสารประกอบเชิงซ้อน
ข. ธาตุ B อยู่หมู่เดียวกับธาตุ C
ค. ธาตุ B มีขนาดใหญ่กว่าธาตุ C และธาตุ D
ง. สูตรของสารประกอบระหว่างธาตุ B และธาตุ D คือ DB3 เท่านั้น

เฉลย ก. เพราะ ธาตุ A คือ 27Co  ,   ธาตุ B คือ 17Cl   ,  ธาตุ C คือ 11Na  ,  D คือ 15P

23. ข้อใดไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ [CoCl4]2- (สีน้ำเงิน) และ [Co(H2O)6]2+ (สีชมพู) มีสีต่างกัน 
(PAT 2 ต.ค. 54)
ก. ประจุแตกต่างกัน
ข. โครงสร้างแตกต่างกัน
ค. ชนิดของหมู่ที่ล้อมรอบอะตอมกลางแตกต่างกัน
ง. จำนวนหมู่ที่ล้อมรอบอะตอมกลางแตกต่างกัน

เฉลย ก. เพราะ ประจุ 2- กับ 2+ ไม่มีผลให้สีเปลี่ยน

24. จากการศึกษาสารประกอบเชิงซ้อนชนิดหนึ่งพบว่า 1 โมเลกุลประกอบด้วย 
Co(III) 1 ไอออน , Br- 3 ไอออน และ H2O 6 โมเลกุล สารนี้เกิดไอโซเมอร์ขึ้น
หลายไอโซเมอร์โดยบางไอโซเมอร์ H2O ทำหน้าที่เป็นหมู่ที่มาล้อมรอบ เช่น
 [Co(H2O)6]Br3 บางไอโซเมอร์ H2O ทำหน้าที่เป็นน้ำผลึก 
เช่น [CoBr3(H2O)3].3H2O (H2O ที่อยู่นอกวงเล็บทำหน้าที่เป็นน้ำผลึก)
 โดยน้ำผลึกนี้จะถูกทำให้ระเหยไปได้ โดยอบสารที่อุณหภูมิ 120 C ในขณะที่ 
H2O ที่เป็นหมู่ที่มาล้อมรอบจะไม่ระเหยไปที่อุณหภูมินี้ นักเรียนคนหนึ่ง
ทำการสังเคราะห์สารประกอบเชิงซ้อนนี้พบว่าได้ของผสมไอโซเมอร์ต่างๆ 
ออกมา แล้วทำการไอโซเมอร์ต่างๆ โดยใช้เทคนิคทางเคมี นักเรียนคนนี้
พยายามทำการวิเคราะห์เบื้องต้นเกี่ยวกับสูตรของไอโซเมอร์ต่างๆโดยใช้
อุปกรณ์ที่ไม่ซับซ้อน วิธีการใดต่อไปนี้เหมาะสมที่สุด (PAT 2 ต.ค. 55)
ก. โครมาโทกราฟี
ข. กรอง
ค. การให้ความร้อน 
ง. การตกผลึก

เฉลย ค. เพราะ โครงสร้างในสารประกอบเชิงซ้อน น้ำบางส่วนไม่สามารถระเหยได้ แต่น้ำบางส่วนสามารถระเหยได้ ดังนั้นการศึกษาโครงสร้าง สามารถใช้อุปกรณ์ที่ไม่ซับซ้อนตรวจสอบได้ คือ การให้ความร้อน

บทพันธะเคมี -พันธะไอออนิก


25. ผลึกไอออนิกแตกหักเมื่อมีแรงเข้าไปกระทำเพราะเหตุใด (PAT 2 ก.ค. 53)
ก. ประจุชนิดเดียวกันผลักกัน
ข. อิเล็กตรอนหลุดออกจากผลึก
ค. จำนวนประจุบวกและลบไม่เท่ากัน
ง. อิเล็กตรอนเคลื่อนที่เร็วขึ้น เนื่องจากมีพลังงานจลน์มากขึ้น

เฉลย ก. เพราะ ประจุแต่ละชนิดจะต้องผลักกันตามหลักของขั้ว

26. ธาตุ X มีเลขอะตอม 53 จงพิจารณาข้อความต่อไปนี้
      1. X รวมตัวกับโลหะปรอทแล้วจะมีสูตรเคมีเป็น Hg2X2
      2. X เมื่อเป็นไอออนจะมีโครงสร้างอิเล็กตรอนเป็น 2  8  18  18  8
      3. X เมื่อเป็นไอออนจะมีรัศมีไอออนเล็กกว่าไอออนของธาตุที่มีโครงสร้างอิเล็กตรอนเป็น 
          2  8  18  18  8  1
ข้อใดถูกต้อง (PAT 2 มี.ค. 52)
ก. 1 และ 2
ข. 2 และ 3
ค. 1 และ 3
ง. 2

เฉลย ก. เพราะ สารประกอบปรอทสามารถมีสูตรเป็น Hg2Cl2 , Hg2I2 ได้

27. จุดหลอมเหลวของ MgO สูงกว่า NaF เนื่องจากสาเหตุใดต่อไปนี้ (PAT 2 มี.ค. 55)
      1. Mg2+ มีประจุบวกสูงกว่า Na+
      2. O2- มีประจุลบสูงกว่า F-
      3. O2- ใหญ่กว่า F-
ก. ข้อ 2 เท่านั้น
ข. ข้อ 1 และ 2
ค. ข้อ 1 และ 3
ง. ข้อ 1 , 2 และ 3

เฉลย ข. เพราะ 1.ประจุที่สูงกว่าจะทำให้เกิดแรงยึดเหนี่ยวได้มากกว่า 
จุดหลอมเหลวจึงสูงกว่า2. ขนาด O2- ที่ใหญ่กว่า F- ทำให้โครงร่างผลึกห่าง
จากกันมากแรงยึดเหนี่ยวจะอ่อนลง ไม่ได้ทำให้จุดหลอมเหลวของ MgO สูงกว่า NaF

28. ข้อใดผิดเกี่ยกับการนำไฟฟ้าของสารชนิดต่างๆ (PAT 2 ต.ค. 53)
ก. การนำไฟฟ้าของสารประกอบไอออนิกในสถานะของเหลวเกิดจากการถ่ายเท
อิเล็กตรอนจากไอออนบวกให้ไอออนลบ
ข. การนำไฟฟ้าของโลหะเกิดจากการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่มีพลังงานจลน์สูง
ค. แกรไฟต์ซึ่งเป็นอัญรูปหนึ่งของคาร์บอนนำไฟฟ้าได้เนื่องจาก การเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน
ง. สารกึ่งตัวนำ จะนำไฟฟ้าได้ก็ต่อเมื่อได้รับพลังงานจำนวนหนึ่งแล้วทำให้อิเล็กตรอนเกิดการเปลี่ยนระดับพลังงาน

เฉลย ก. เพราะ การนำไฟฟ้าของไอออนิกเป็นการเคลื่อนที่ของไอออน ไม่ใช่การถ่ายเทอิเล็กตรอน

พลังงานในการเกิดพันธะไอออนิก

29. พิจารณาปฏิกิริยา Ca (s) + 1/2 O2 (g) ------>   CaO (s)
      พลังงานในข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยานี้ (PAT 2 มี.ค. 54)
ก. พลังงานแลตทิช
ข. พลังงานการระเหิดของ Ca
ค. พลังงานไอออไนเซชั่นของธาตุออกซิเจน
ง. พลังงานการสลายพันธะของธาตุออกซิเจน

เฉลย ค. เพราะ Ca (s) + 1/2O2 ---->  CaO (s)
          พลังงานในการเกิดมี 5 ขั้นตอน พลังงานไอออไนโซชันเกิดกับธาตุ 
Ca ไม่เกิดกับธาตุออกซิเจน

30. พิจารณาวัฏจักร Born-Haber สำหรับการเกิดเฮไลด์ของธาตุสมมติ A(AXn)
      a.  X2 (s) ----> X2 (l)                                                       ∆H1 
      b.  X2 (l) ----> X2 (g)                                                      ∆H2
      c.  X2 (g) ----> 2X (g)                                                      ∆H3
      d.  X (g) + e- ----> X- (g)                                                 ∆H4
      e.  A (s) ----> A (g)                                                          ∆H5
      f.   A (g) ----> An+ (g) + ne-                                            ∆H6 
      g.  An+ (g) + nX- (g) ----> AXn (s)                                 ∆H7 
ถ้าพบว่า A (s) + n/2 X2 ----> AXn (s) มีค่า  ∆H = ∆H2 + ∆H3 + 2∆H4  + ∆H5 + ∆H6 + ∆H7
สารประกอบ AXn ควรเป็นข้อใด  (PAT 2 เม.ย. 57) 
ก. CaCl3
ข. CaBr2
ค. AlCl3
ง. AlBr3

เฉลย ข. เพราะ จากสมการรวมทั้งหมด (∆H)  ไม่เกี่ยวข้องกับ ∆H1 แสดงว่า X
 ต้องเป็นของเหลวในที่นี้คือ Br2 และจากสมการ d ต้องใช้พลังงานเท่ากับ 2 ∆H4
 แสดงว่า Br ต้องมี 2 อะตอม 

ข้อสอบ ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัติการเคมี

 

แบบทดสอบ
เรื่อง ความปลอดภัยด้านสารเคมีและการจัดการของเสียสำหรับห้องปฏิบัติการ 

1. MSDS หรือ SDS คืออะไร 
ก. ฉลากของสารเคมีแต่ละชนิด 
ข. เอกสารที่แสดงข้อมูลของสารเคมีแต่ละชนิดเกี่ยวกับลักษณะความเป็นอันตราย วิธีใช้ การเก็บรักษา การขนส่ง การกำจัด 
ค. ข้อกำหนดในการทำงานกับสารเคมี 
ง. แนวทางในการปฏิบัติงานกับสารเคมี 

ตอบ ข. เอกสารที่แสดงข้อมูลของสารเคมีแต่ละชนิดเกี่ยวกับลักษณะความเป็นอันตราย วิธีใช้ การเก็บรักษา การขนส่ง การกำจัด


2. ท่านสามารถหา MSDS ได้จากที่ใด 
ก. ร้านขายหนังสือทั่วไป 
ข. สืบค้นจากฐานข้อมูลต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต
ค. ฉลากข้างขวด 
ง. ถูกทุกข้อ 

ตอบ ข. สืบค้นจากฐานข้อมูลต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต


3. ทุกใดไม่ใช่กฎทั่วไปในการปฏิบัติงานกับสารเคมีอย่างปลอดภัย 
ก. รู้จักสารเคมีที่ใช้ 
ข. รู้วิธีการปฏิบัติงาน 
ค. รู้แหล่งผลิตสารเคมี 
ง. มีการจัดการสารเคมีอย่างถูกต้อง 

ตอบ ค. รู้แหล่งผลิตสารเคมี 


4. ข้อใดเป็นการปฏิบัติงานกับสารเคมีอันตรายที่ถูกต้องและปลอดภัย 
ก. ใส่คอนแทคเลนส์เมื่อทำงานกับสารเคมี 
ข. สวมรองเท้าเมื่อทำงานกับสารเคมี 
ค. ถ้าไม่มั่นใจว่าเป็นสารเคมีอันตรายอย่างไร ให้ทดลองทำน้อยๆ ดูก่อน 
ง. สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เหมาะสมตลอดเวลา 

ตอบ ง. สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เหมาะสมตลอดเวลา 


5. ข้อใดเป็นการปฏิบัติงานกับสารเคมีอันตรายที่ถูกต้องและปลอดภัย 
ก. สารเคมีที่มีไอระเหย มีกลิ่นฉุน รุนแรง เช่น กรด ฟอร์มาลีน ควรทำภายในตู้ดูดไอสารเคมี 
ข. สารเคมีที่มีไอระเหย มีกลิ่นฉุน รุนแรง เช่น กรด ฟอร์มาลีน ควรทำในที่โล่ง ระบายอากาศดี
ค. สารเคมีทุกชนิด ควรทำภายในตู้ดูดไอสารเคมี 
ง. ข้อ ก. และ ค. ถูกต้อง 

ตอบ ก. สารเคมีที่มีไอระเหย มีกลิ่นฉุน รุนแรง เช่น กรด ฟอร์มาลีน ควรทำภายในตู้ดูดไอสารเคมี 


6. ข้อใดแนวทางการจัดเก็บสารเคมีอย่างถูกต้องและปลอดภัย 
ก. เก็บรักษาตามคำแนะนำใน MSDS 
ข. สถานที่เก็บควรปิดสนิทมิดชิด ไม่ควรให้มีอากาศถายเทสู่ภายนอก 
ค. เพื่อประหยัดพื้นที่ควรวางขวดสารเคมีซ้อนกัน โดยภาชนะขนาดใหญ่ไว้ชั้นลางสุด 
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ก. เก็บรักษาตามคำแนะนำใน MSDS 

 
7. ข้อใดเป็นมาตรการควบคุม ป้องกันอันตรายจากสารเคมีอันตรายที่ดีที่สุด 
ก. ติดตั้งพัดลมระบายอากาศ 
ข. สวมใส่ถุงมือตลอดเวลาที่ทำงานกับสารเคมี 
ค. ยกเลิกการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย หรือเปลี่ยนไปใช้สารชนิดอื่นที่ปลอดภัยกว่า
. จัดทำเอกสารความปลอดภัยสารเคมีให้พร้อมใช้ตลอดเวลา  

ตอบ ค. ยกเลิกการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย หรือเปลี่ยนไปใช้สารชนิดอื่นที่ปลอดภัยกว่า


8. เมื่อสารเคมีหกใส่ร่างกายหรือกระเด็นเข้าตา ต้องทำอะไรเป็นสิ่งแรก 
ก. รีบไปพบแพทย์ทันที 
ข. อาบน้ำ หรือล้างตาด้วยน้ำ นานอย่างน้อย 15 นาที 
ค. รีบรายงานให้หัวหน้าห้องปฏิบัติการทราบ 
ง. แจ้งผู้ร่วมงาน 

ตอบ ข. อาบน้ำ หรือล้างตาด้วยน้ำ นานอย่างน้อย 15 นาที 


9. ข้อใดต่อไปนี้ห้ามทิ้งลงอ่างน้ำหรือท่อน้ำทิ้งโดยตรง 
ก. สารไวไฟ 
ข. สารตัวทำละลาย 
ค. สารไวปฏิกิริยากับน้ำ เช่น โลหะโซเดียม 
ง. ข้อ ก. และ ค. ถูกต้อง 

ตอบ ค. สารไวปฏิกิริยากับน้ำ เช่น โลหะโซเดียม 


10. เมื่อเกิดเหตุการณ์สารเคมีหกปนเปื้อนน้อย (minor chemical spill) ในหน่วยงานต้องทำอะไรเป็น สิ่งแรก 

ก. ทำความสะอาดบริเวณที่มีสารเคมีหก 
ข. หยุดการปฏิบัติงาน ปิดห้องแล้วรีบออกไป 
ค. แจ้งงานอาชีวอนามัยทันที 
ง. แจ้งให้ผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้นทราบทันที 

ตอบ ง. แจ้งให้ผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้นทราบทันที 


11. ของเสียสารเคมีชนิดใดที่สามารถทิ้งลงอ่างน้ำหรือท่อน้ำทิ้งได้โดยตรง 
ก. สารไวไฟสูง 
ข. สารละลายบัฟเฟอร์ 
ค. ตัวทำละลายที่ไม่ละลายน้ำ
ง. สารไวปฏิกิริยากับน้ำ

ตอบ ข. สารละลายบัฟเฟอร์ 

12. เมื่อกรด HCl เข้มข้นหกในห้องปฏิบัติการ ควรใช้ neutralizing agent ตัวไหนเหมาะสมที่สุด 
ก. ผงถ่านคาร์บอน 
ข. โซเดียมไบคาร์บอเนต 
ค. น้ำประปา 
ง. ทราย 

ตอบ ข. โซเดียมไบคาร์บอเนต 

13. วิธีใดเหมาะสมที่สุด สำหรับการต้มสารละลายเมทานอล 
ก. ต้มด้วยตะเกียงบุนเสน 
ข. ต้มในอ่างน้ำควบคุมอุณหภูมิ 
ค. ต้มภายในบีกเกอร์ใส่น้ำ ตั้งบนตะเกียงบุนเสน 
ง. ต้มบน hot plate

ตอบ ข. ต้มในอ่างน้ำควบคุมอุณหภูมิ 


ข้อสอบ พันธะเคมี

  ข้อสอบ 1.สารโคเวเลนต์ชนิดหนึ่งมีสูตร AH3 และรูปร่างโมเลกุลเป็นสามเหลี่ยมแบนราบ อะตอม A ในสารนี้ไม่มีอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว ข้อใดที่น่าจะเป...